FDA
02 088 4699
เข้าสู่ระบบเปิดบัญชี

9 Indicator ยอดฮิตของนักเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล

11 Jan 2567

9 Indicator ยอดฮิตของนักเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนและความเสี่ยงสูง แต่หากทำความเข้าใจ และศึกษาหาความรู้ พร้อมกับการนำเครื่องมือ Indicator มาใช้อย่างถูกต้องก็จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดได้ โดย Indicator ที่คัดมาจากความนิยมของนักเทรดคริปโทมี 9 ตัวดังนี้

1. Moving Averages (MA)

Moving Averages หรือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับนักเทรดมือใหม่ในการทำความเข้าใจแนวโน้มของตลาด เกิดจากการคำนวณราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่งๆ แล้วสร้างออกมาเป็นกราฟเส้นที่มีความราบรื่นขึ้น Moving Averages สองชนิดที่นิยมใช้ในการซื้อขายคือ Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA) ซึ่ง SMA นั้นให้น้ำหนักของข้อมูลราคาทุกตัวเท่าๆ กัน เป็นราคาเฉลี่ยที่ตรงไปตรงมา ในขณะที่ EMA นั้นให้น้ำหนักกับข้อมูลราคาล่าสุดมากกว่า การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่แตกต่างกัน จะสามารถระบุสัญญาณซื้อหรือขายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงกำหนดระดับแนวรับและแนวต้าน และรับข้อมูลที่มีความแม่นยำขึ้นเกี่ยวกับทิศทางของตลาดโดยรวมได้

2. Relative Strength Index (RSI)

Relative Strength Index (RSI) เป็นโมเมนตัม Oscillator ยอดนิยมที่นักเทรดนิยมใช้เพื่อประเมินความแข็งแกร่งและความเร็วของการเคลื่อนไหวราคา โดย RSI จะอยู่ในช่วง 0 ถึง 100 ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถระบุสภาวะการซื้อและการขายที่มากเกินไปของตลาดได้ เช่น หากค่าสูงกว่า 70 บ่งบอกถึงสภาวะการซื้อที่มากเกินไป ส่งสัญญาณถึงการปรับฐานของราคาที่อาจเกิดขึ้น ในทางกลับกัน หากต่ำกว่า 30 บ่งบอกถึงสภาวะการขายที่มากเกินไป ส่งสัญญาณว่าราคาอาจดีดตัวขึ้น เมื่อเข้าใจ RSI แล้ว นักเทรดจะสามารถคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มราคาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงจัดการความเสี่ยง และทำการตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3. Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็น Indicator ที่ข้อมูลมีความหลากหลาย สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความผันผวนและการ Breakout ของราคาที่อาจเกิดขึ้น ประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เส้นกลางและแถบด้านนอกสองแถบที่เกิดจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความกว้างของแถบที่ขยายและหดตัวสอดคล้องและเปลี่ยนแปลงตามความผันผวนของตลาด นักเทรดสามารถใช้ Bollinger Bands เพื่อช่วยระบุช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงหรือต่ำ รวมถึงตรวจจับการกลับตัวของราคาที่อาจเกิดขึ้น และตรวจสอบบริเวณที่มีการซื้อหรือขายที่มากเกินไปได้ เมื่อราคาเข้าใกล้แถบบน แสดงว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไป ขณะที่ถ้าราคาเข้าใกล้แถบล่างจะบ่งบอกว่ามีภาวะการขายที่มากเกินไป

4. Moving Average Convergence Divergence (MACD)

Moving Average Convergence Divergence (MACD) เป็น Indicator ยอดนิยมที่รวมค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เข้ากับการวิเคราะห์โมเมนตัม ประกอบด้วยเส้น 2 เส้น คือเส้น MACD และเส้น Signal โดยเส้น MACD แสดงความแตกต่างระหว่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้น ในขณะที่เส้น Signal เป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของเส้น MACD เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างเส้น MACD กับเส้น Signal เราจะสามารถระบุสัญญาณซื้อหรือขายจากตัว MACD ได้ ค่า MACD ที่เป็นบวกบ่งบอกว่าโมเมนตัมของราคาเป็นขาขึ้น ในขณะที่หากมีค่าเป็นลบจะบ่งบอกว่าโมเมนตัมของราคาเป็นขาลง การ Cross Over ของ MACD ที่เส้น MACD ตัดเหนือหรือใต้เส้น Signal มักใช้เป็นสัญญาณในการเข้าหรือออกของนักเทรดจำนวนมาก

5. Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการระบุแนวรับและแนวต้านที่มีความเป็นไปได้ภายในแนวโน้มใหญ่ Indicator ตัวนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การย้อนกลับของราคาและทำการตัดสินใจในการเข้าหรือออกการซื้อขายได้ ระดับ Fibonacci ที่นักเทรดใช้บ่อยที่สุดคือ 38.2%, 50% และ 61.8% เมื่อราคาลดลงมาที่ระดับเหล่านี้ มักจะพบแนวรับหรือแนวต้านที่มีความสำคัญ ทำให้เกิดโอกาสในการกลับตัว การรวม Fibonacci Retracement เข้ากับการวิเคราะห์อื่นๆ จะทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าใจรูปแบบราคาได้ดีขึ้น รวมถึงคาดการณ์การกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

6. Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator เป็น Indicator ประเภทโมเมนตัมที่ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุการกลับตัวของแนวโน้ม และสภาวะการซื้อหรือการขายที่มากเกินไปได้ โดยจะเปรียบเทียบราคาปิดของสินทรัพย์กับช่วงราคาในช่วงเวลาที่กำหนด Oscillator จะสร้างเส้นสองเส้น คือ %K และ %D เมื่อเส้น %K ตัดขึ้นเหนือเส้น %D แสดงว่าเป็นสัญญาณขาขึ้น และเมื่อ %K ตัดลงใต้เส้น %D แสดงว่าเป็นสัญญาณขาลง ค่าที่สูงกว่า 80 บ่งบอกถึงสภาวะการซื้อที่มากเกินไป ในขณะที่ค่าที่ต่ำกว่า 20 บ่งบอกถึงสภาวะการขายที่มากเกินไป เมื่อมีความเข้าใจกับ Stochastic Oscillator จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในวิเคราะห์และตัดสินใจซื้อขายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

7. FDA Strong Trend

บอกความแข็งแกร่งของ Trend และ Momentum ด้วย FDA Strong Trend ได้ง่ายๆ จากแท่งเขียว เหลือง และแดง

  • แท่งเขียว (Strong Uptrend) ยิ่งมีแท่งเขียวเยอะ และสูงขึ้นต่อเนื่องมากกว่าเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average) ของแท่งเขียว บ่งบอกว่าเหรียญเป็นเทรนด์ขาขึ้น และมีโมเมนตัมแข็งแรง
  • เมื่อแท่งเขียวทะลุ MA เป็นวันแรกและราคาปิดสูงกว่าแนวต้าน พิจารณาเป็น “จุดเข้าซื้อ”
  • เมื่อแท่งเขียวต่ำกว่า MA เป็นวันแรกและราคาปิดต่ำกว่าแนวรับ พิจารณาเป็น “จุดขาย”
  • แท่งแดง (Weak Trend) ยิ่งมีแท่งแดงเยอะ บ่งบอกว่าเหรียญมีแรงขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และโมเมนตัมอ่อนแรงลงควรหลีกเลี่ยงในการเข้าเทรด
  • แท่งเหลือง (Speculate) ยิ่งมีแท่งสีเหลืองเยอะ บ่งบอกว่าเหรียญไม่มีทิศทาง (Sideway)

8. Ichimoku Cloud

Ichimoku Cloud เป็น Indicator ที่บอกมุมมองแบบภาพกว้างของแนวโน้มตลาด แนวรับแนวต้าน และบอกสัญญาณการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น ประกอบด้วยเส้นหลายเส้นและโครงสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับก้อนเมฆ พื้นที่ก้อนเมฆแสดงถึงแนวรับหรือแนวต้านของราคา นอกจากนี้ เส้น Tenkan-sen (สีเขียว) และ Kijun-sen (สีน้ำเงิน) ยังให้สัญญาณที่คล้ายกับการ Cross Over ของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อีกด้วย กล่าวคือหากเส้น Tenkan-sen (สีเขียว) ตัดเส้น Kijun-sen (สีน้ำเงิน) ขึ้น จะเป็นสัญญาณซื้อ และกลับกันหากเส้น Kijun-sen (สีน้ำเงิน) ตัดเส้น Tenkan-sen (สีเขียว) ลง จะเป็นสัญญาณขาย การรวม Ichimoku Cloud เข้ากับการวิเคราะห์อื่นๆ นักเทรดจะสามารถเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างครอบคลุม และตัดสินใจซื้อขายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

9. Volume

ปริมาณการซื้อขายเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่วัดจากจำนวนเหรียญที่ผู้คนซื้อขายกันบนตลาด ซึ่งปริมาณการซื้อขายเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักเทรด สามารถใช้เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของราคา บอกความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงยืนยันแนวโน้ม และช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นมักจะมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ ซึ่งบ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมของตลาดที่เพิ่มขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย นักเทรดสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงระบุ Breakout ที่อาจเกิดขึ้น และทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามอารมณ์ของตลาด
สรุป
นักเทรดมือใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จาก Indicator เป็นพื้นฐานสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็น Moving Averages (MA), Relative Strength Index (RSI), Bollinger Bands หรือ Moving Average Convergence Divergence (MACD)
ซึ่ง Indicator เหล่านี้ได้รับความนิยมจากนักเทรดจำนวน โดยแต่ละตัวจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด โมเมนตัม ความผันผวน หรือจุดเข้าและจุดออก นักเทรดจึงควรเรียนรู้ Indicator และประยุกต์เข้ากับกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง