Chainlink (LINK)
Chainlink คืออะไร
Chainlink (LINK) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประจำแพลตฟอร์ม Chainlink ซึ่งเป็น Oracle ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับบล็อกเชน Ethereum รวมถึงบล็อกเชนอื่นๆ โดยหน้าที่ของ Oracle อย่าง Chainlink คือการเป็นตัวกลางระหว่างข้อมูลจากโลกภายนอกกับ Blockchain โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของ Oracle เพื่อนำไปใช้ใน dApp ต่างๆ เช่น ดึงข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ เพื่อนำไปพัฒนาบริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น
Market Status
ข้อมูล ณ วันที่ 04 Dec 2567 | 11:23 น.Market Cap (THB)
533,976,900,125.081
(0.436% of all market)
Total Supply (LINK)
1,000,000,000
การทำงานของ Chainlink
Chainlink เป็นเครือข่าย Oracle แบบกระจายอำนาจที่ทำงานบนบล็อกเชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมต่อบล็อกเชนกับข้อมูลภายนอก ซึ่ง Chainlink จะทำงานโดยใช้เครือข่ายของโหนด (Node) เพื่อป้อนข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและถูกต้องให้แก่สัญญาอัจฉริยะ โดยสมมติว่าสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ต้องการข้อมูลจากโลกภายนอกและได้ทำการร้องขอข้อมูล โปรโตคอล Chainlink ก็จะจดบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้และส่งต่อไปยัง Chainlink Node ตามคำร้องขอ
Chainlink Node เป็นผู้ให้บริการ Oracle ที่สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอกได้ โดย Chainlink Node ที่ได้รับคำร้องขอจะต้องใช้เหรียญ LINK เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าพวกเขามีความสามารถในการให้บริการ Oracle จากนั้น Chainlink Node ที่ได้รับคำร้องขอจะไปเรียกข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่ต้องการ แล้วส่งคืนไปยัง Chainlink Core เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความสอดคล้องของข้อมูล โดย Chainlink Core เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการส่งผ่านข้อมูลจาก Chainlink Node ไปยังสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชน
ข้อดีของ Chainlink
- Chainlink เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญกับการสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนที่ต้องการใช้ข้อมูลจากโลกภายนอกที่มีความถูกต้อง
- Chainlink สามารถดึงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ได้แบบ Real-time ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้งานบนแพลตฟอร์ม DeFi
ข้อเสียของ Chainlink
- แม้ว่า Chainlink จะถูกออกแบบมาให้กระจายศูนย์ แต่ในทางปฏิบัติยังคงพึ่งพา Node จำนวนน้อยในการให้ข้อมูลสำคัญ จึงมีความเสี่ยงด้านการรวมศูนย์ (Centralization Risk) หาก Node เหล่านี้เกิดปัญหาหรือถูกโจมตี ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้
- Chainlink ยังพึ่งพา Ethereum เป็นหลัก แม้จะสามารถทำงานบนบล็อกเชนอื่นได้ แต่ส่วนใหญ่ของการใช้งานและสภาพคล่องยังอยู่บน Ethereum ทำให้มีความเสี่ยงหากเกิดปัญหากับ Ethereum
คำเตือน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้